แหล่งท่องเที่ยวในอำเภอพาน
น้ำตกปูแกง
http://www.reviewthaitravel.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%87/
น้ำตกปูแกงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในอำเภอพาน ซึ่งตั้งอยู่ในเขต
อุทยานแห่งชาติดอยหลวง เป็นน้ำตกที่มีการทับถมของหินปูนที่ปนมากับน้ำ
ทำให้เกิดหินงอกหินย้อย และถ้ำมากมายในบริเวณน้ำตก
เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง มีจำนวน 9 ชั้น
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณบ้านปูแกง อำเภอพาน
จังหวัดเชียงราย
โดยปกติจะมีราษฎรในท้องถิ่นเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนอยู่เป็นประจำ
น้ำตกปูแกงเป็นอุทยานแห่งชาติดอยหลวง สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอแม่สรวย อำเภอพาน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง และอำเภอแม่ใจ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ ๗๓๑,๒๕๐ ไร่
สภาพภูมิประเทศของสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้เป็นเขาสูง มีดอยหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ประกอบด้วยป่าสน ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง และป่าเต็งรัง ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์มีความอุ้มน้ำสูง ทำให้ลำห้วยและน้ำตกในอุทยานฯ มีน้ำไหลตลอดปี
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้(อุทยานฯ) ยังมีสัตว์ป่า เช่น หมี กวาง เก้ง เลียงผา และนกหลายชนิด เช่น นกเงือก นกพญาไฟพันธุ์เหนือ นกปีกลายสก๊อต นกกางเขนหัวขาวท้ายแดง นกศิวะปีกสีฟ้า และนกย้ายถิ่นหายาก เช่น นกกินปลีหางยาวคอสีฟ้า นกกินปลีหางยาวคอสีดำ เป็นต้น นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้จะมีความสมบูรณ์ของป่าที่ให้ความร่ม รื่น ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มี น้ำตกปูแกง สูง 9 ชั้น ในยามค่ำคืนจะได้ยินเสียงน้ำตกไหลกระทบหิน
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกปูแกง ระยะทาง 1,500 เมตร ตามเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายตามจุดต่าง ๆ ที่จะให้ความรู้แก่นักเดินป่าได้ เส้นทางเดินไม่ลาดชัน เดินสบาย และนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรม อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์บริการ
การเดินทางสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (เชียงราย-พะเยา) ไป 58 กิโลเมตร ถึงบ้านปูแกง บริเวณ กิโลเมตรที่ 773 เลี้ยวขวาไปอีก 9 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ
น้ำตกปูแกงเป็นอุทยานแห่งชาติดอยหลวง สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้มีพื้นที่ครอบคลุมอำเภอแม่สรวย อำเภอพาน อำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย อำเภอวังเหนือ จังหวัดลำปาง และอำเภอแม่ใจ อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา มีเนื้อที่ ๗๓๑,๒๕๐ ไร่
สภาพภูมิประเทศของสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้เป็นเขาสูง มีดอยหลวงเป็นยอดเขาที่สูงที่สุด ประกอบด้วยป่าสน ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง และป่าเต็งรัง ที่ยังคงอุดมสมบูรณ์มีความอุ้มน้ำสูง ทำให้ลำห้วยและน้ำตกในอุทยานฯ มีน้ำไหลตลอดปี
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้(อุทยานฯ) ยังมีสัตว์ป่า เช่น หมี กวาง เก้ง เลียงผา และนกหลายชนิด เช่น นกเงือก นกพญาไฟพันธุ์เหนือ นกปีกลายสก๊อต นกกางเขนหัวขาวท้ายแดง นกศิวะปีกสีฟ้า และนกย้ายถิ่นหายาก เช่น นกกินปลีหางยาวคอสีฟ้า นกกินปลีหางยาวคอสีดำ เป็นต้น นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้จะมีความสมบูรณ์ของป่าที่ให้ความร่ม รื่น ไม่ไกลจากที่ทำการอุทยานฯ มี น้ำตกปูแกง สูง 9 ชั้น ในยามค่ำคืนจะได้ยินเสียงน้ำตกไหลกระทบหิน
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติน้ำตกปูแกง ระยะทาง 1,500 เมตร ตามเส้นทางจะมีป้ายสื่อความหมายตามจุดต่าง ๆ ที่จะให้ความรู้แก่นักเดินป่าได้ เส้นทางเดินไม่ลาดชัน เดินสบาย และนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักค้างแรม อุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์บริการ
การเดินทางสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 (เชียงราย-พะเยา) ไป 58 กิโลเมตร ถึงบ้านปูแกง บริเวณ กิโลเมตรที่ 773 เลี้ยวขวาไปอีก 9 กิโลเมตร ถึงที่ทำการอุทยานฯ
แหล่งข้อมูล
https://travelphancity.wordpress.com/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%95%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%87/
ถ้ำน้ำลอด
http://mongming39.blogspot.com/2010/09/blog-post_4257.html
ถ้ำน้ำลอด-สถานที่่ท่องเที่ยวอำเภอพาน ตั้งอยู่หมู่ที่ 6 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน
จ.เชียงราย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอพาน
ซึ่งเป็นเขตพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลป่าหุ่ง
และเขตอุทยานแห่งชาติดอยหลวง
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้อยู่ห่างจากที่ว่าการอำเภอพานไปทางทิศ
ตะวันตกประมาณ 18 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางประมาณ 10 กิโลเมตร
และเป็นลูกรังอีกประมาณ 8 กิโลเมตร
สถานที่่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้มีลักษณะเป็นถ้ำหินปูน
มีน้ำไหลออกมาจากถ้ำตลอดปี
ด้านในมีห้องโถงกว้างและสามารถเดินทะลุผ่านไปอีกด้านของภูเขาได้
สามารถเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ
แหล่งข้อมูล
https://travelphancity.wordpress.com/%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94/
ถ้ำผายาว
https://tiptourphan.wordpress.com/%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3/%E0%B8%97%E
ถ้ำผายาวเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอพานแห่งหนึ่ง ซึ่ง ตั้งอยู่ที่ หมู่
13 บ้านดงเจริญ ตำบลม่วงคำ อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้
จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีความสวยงามมาก
นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางเข้าไปชมความงามภายในถ้ำ
โดยสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้จะต้องเดินทางเท้าเข้าไปเท่านั้น
ปากทางเข้าถ้ำจะอยู่บนยอดเขาและทางเดินขึ้นไป
เมื่อเข้าไปในถ้ำจะต้องลอดเข้าไปประมาณ 10 เมตร ภายในถ้ำมีขนาดกว้างใหญ่มาก
ซึ่งมีลักษณะคล้ายท้องพระโรงที่ยังคงสภาพสวยงามมาก และมีหินย้อย
บางจุดเป็นเสาเดี่ยว บางจุดเป็นเสาคู่มีลักษณะคล้ายหัวสัตว์
และมีอยู่จุดหนึ่งมีลักษณะคล้ายอ่างเลี้ยงปลา
บริเวณโดยรอบยังคงสภาพป่าและเขาที่ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์
แหล่งข้อมูล
https://travelphancity.wordpress.com/%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%ad%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%a0%e0%b8%ad%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%99-%e0%b8%96%e0%b9%89%e0%b8%b3%e0%b89-2/
ถ้ำผาโขง
https://atphantravel.wordpress.com/tag/%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C%E0%B
ถ้ำผาโขงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งหนึ่งที่มีมีประวัติความ เป็นมานับตั้งแต่หนึ่งพันกว่าปี หรืออาจจะมากกว่ากว่านั้นยังพิสูจน์ให้แน่ชัดยังไม่ได้ สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ถูกค้นพบจากชาวนาที่เข้าไปหาของป่าแล้วพบ ถ้ำสวยงามมากจึงเห็นว่าแปลกดีจึงเข้าไปดูข้างในกลับปรากฏว่าถ้ำม้ทางผ่าน ทะลุไปยังอีกฟากหนึ่งได้และยังมีน้ำที่ไหลลงมาจากยอดดอยไหลผ่านและได้พบเห็น พันธุ์ไม้หายากต่างๆมากมายจึงได้นำข้อมูลมาเล่าต่อให้กันฟัง และแล้วสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ก็ได้เป็นที่รู้จักกันเรื่อยมาจนใน ที่สุดได้ไปแจ้งให้นักพิสูจน์ประวัติศาสตร์มาดูและได้รวมใจกันชื่อถ้ำนี้ว่า ถ้ำผาโขง เพราะถ้ำมีหน้าผาที่สูงชันและสง่าสวยงามตะการตามาก และโขงคือน้ำที่ไหลผ่านออกมาจากยอดดอยตลอดทั้งปีไม่มีวันเหือดแห้งเหมือนดัง กลับแม่น้ำโขง จากหนังสือบันทึกกรมพิสูจน์ประวัติศาสตร์และคำบอกเล่าจากผู้เฒ่าผู้แก่ที่ ได้เล่าสืบต่อกันมาจนถึงทุกวันนี้
ถ้ำผาโขงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพาน ซึ่งตั้งอยู่ที่เขตบริเวณหมู่บ้านบ้านปางเกาะทรายหมู่ที่6 ต.ป่าหุ่ง
การเดินทางสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้อยู่ห่างจาก
อำเภอพานประมาณ 15 กิโลเมตร
โดยจะผ่านหลังที่ทำการอำเภอพานพานไปทางทิศตะวันตกเป็นพื้นที่รับผิดชอบของ
องค์การบริหารส่วนตำบลป่าหุ่งและเป็นเขตอนุรักษ์อุทยานแห่งชาติดอยหลวงอยู่
ห่างจากที่ทำการอำเภอพานไปทางทิศตะวันตกประมาณ 6 กิโลเมตร
เป็นถนนลาดยางและต่อด้วยถนนซีเมนต์ประมาณ15 กิโลเมตร และถนนลูกรังอีก 1
กิโลเมตร
มีลักษณะเป็นแบบถ้ำหินปูนยังมีน้ำไหลผ่านออกมาจากถ้ำตลอดทั้งปีภายในของถ้ำ
เป็นโพรงกว้าง มีหินงอก หินย้อยลงมาสวยงามมาก
สามารถเดินผ่านและไปเที่ยวได้ถึงหลังถ้ำ สามารถเข้าเที่ยวชมได้ตลอดทั้งปี
โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาท่องเที่ยวและเก็บภาพ
เป็นจำนวนมาก โดยจะองค์การบริหารส่วนตำบลป่าหุ่งมีการจัดให้มีร้านอาหาร
ห้องน้ำ สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ
เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวชมทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศอย่างมาก
มาย
แหล่งข้อมูล
https://travelphancity.wordpress.com/%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B3%E0%B9%80%E0%B8%A0%E0%B8%AD%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%9C/
บ่อน้ำร้อนทรายขาว
http://www.chiangraifocus.com/%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A2%
บ่อน้ำร้อนบ้านทรายขาว-สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพาน
ตั้งอยู่ที่ตำบลทรายขาว ริมทางหลวงหมายเลข 1 สายเชียงราย-พะเยา
ห่างจากเชียงราย 37 กิโลเมตรครับ
ในอดีตบริเวณนั้นได้รับการปรับปรุงให้เป็นสถานที่พักผ่อนริมทาง
มีบ่อน้ำร้อน 2 บ่อ
และศาลาพักผ่อนด้วยนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับน้ำพุร้อนจากธรรมชาติ
ในบริเวณบ่อน้ำพุร้อนทรายขาว ได้จัดสถานที่ให้นักท่องเที่ยว
ได้อาบน้ำแร่จากน้ำพุร้อนจากธรรมชาติ
แต่ในปัจจุบันสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอพานแห่งนี้ไม่ได้ถูกพัฒนาให้
เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอพาน สถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ถูกลืม
และกลายเป็นบ่อน้ำร้อนที่รกร้างริมทาง แห่งบ้านทรายขาว
สำหรับบ่อน้ำพุร้อนบ้านห้วยทรายขาว
นับว่าเป็นต้นกำเนิดของบ่อน้ำพุร้อนใต้พิภพที่มีอายุเก่าแก่อีกจุดในประเทศ
ไทย ซึ่งหาชมได้ยาก
แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์เปิดตัวจึงทำให้กลายเป็นบ่อน้ำพุร้าง
ขาดการปรับปรุงดูแลเรื่อยมากว่า 10 ปี
ทำให้กลายเป็นตำนานของการเป็นแหล่งที่ตั้งบ่อน้ำพุร้อนเท่านั้น สำหรับบ่อน้ำพุร้อนบ้านห้วยทรายขาว
นับว่าเป็นต้นกำเนิดของบ่อน้ำพุร้อนใต้พิภพที่มีอายุเก่าแก่อีกจุดในประเทศ
ไทย ซึ่งหาชมได้ยาก
แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับการประชาสัมพันธ์เปิดตัวจึงทำให้กลายเป็นบ่อน้ำพุร้าง
ขาดการปรับปรุงดูแลเรื่อยมากว่า 10 ปี
ทำให้กลายเป็นตำนานของการเป็นแหล่งที่ตั้งบ่อน้ำพุร้อนเท่านั้น โดย
อบต.ทรายขาว ในยุค นายพิชัย บุญรอด เป็นนายก
อบต.ได้พยายามรื้อฟื้นตำนานแหล่งกำเนิดบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ขึ้นมาอีกครั้ง
แต่ติดขัดเรื่องที่ดินและงบประมาณดำเนินการ
ประกอบกับหน่วยงานรัฐระดับสูงไม่ให้ความสนใจจึงทำให้แผนการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว
แหล่งข้อมูล
https://travelphancity.wordpress.com/%E0%B8%9A%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%82%E0%B8%B2%E0%B8%A7/
วัดทรายขาว
https://www.google.com/url?sa=i&rct=j&q=&esrc=s&source=images&cd=&
วัดทรายขาว หรือมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วัดห้วยทรายขาว
จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้เป็นวัดมหานิกาย
ได้เริ่มก่อสร้างขึ้นราว พ.ศ.2400 โดยมีพ่อหนานอริยะ
แม่มังได้พาญาติพี่น้องอพยพครอบครัวจากบ้านเมืองลวงเหนือ อ.ดอยสะเก็ด
จังหวัดเชียงใหม่ มาตั้งภูมิลำเนาอยู่ริมลำห้วยทรายขาว
และได้ตั้งชื่อหมู่บ้านว่า “บ้านห้วยทราขาว” ต.แม่หนาด อ.พาน
จ.เชียงราย
จนถึง พ.ศ. 2436 พ่ออุ้ยตา แม่อุ้ยป้อ อริยะมั่ง เป็นบุตรพ่อหนานอริยะ
แม่มั่ง
เป็นผู้มีฐานะดีได้เสียสละกำลังทรัพย์เป็นผู้นำย้ายวัดห้วยทรายขาวมาตั้ง
อยู่ ณ ที่อยู่ปัจจุบัน ซึ่งมี พระครูอนุกูลวัฒนกิจ เป็นเจ้าอาวาส
พ่อมีชัย นราดุลย์ เกิดที่บ้านทรายขาว เมื่อวันที่ 15 เมษายน
พ.ศ. 2477 เกิดเป็นบุตรของกำนันหมื่นชัย นราดุลย์ (พรมตัน)
และแม่บัวเขียวจริยะมั่ง จบกฎหมายจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ พ.ศ. 2501
มีภูมิลำเนาอยู่ที่ ซอย 10 ลาดพร้าวเขตจตุจักต์
กรุงเทพมหานครวัดนี้พ่อของคุณแม่บัวเขียว (ศักดิ์เป็นคุณตาของพ่อมีชัย
นราดุลย์)
เป็นผู้สร้างสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้มาดั้งเดิมต่อมาชำรุดทรุดโทรม
คุณพ่อมีชัยจึงได้ใช้เงินส่วนตัวสร้างขึ้นมาใหม่
รวมทั้งการออกแบบคำนวณด้วยตนเองตั้งแต่ พ.ศ. 2544 แหล่งข้อมูล
https://travelphancity.wordpress.com/about/
วัดพระธาตุจอมแว่
https://www.google.com/search?q=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0
วัดพระ
ธาตุจอมแว่ หรือชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า วัดพระธาตุดอยจอมแว่
จัดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพาน
ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ตั้งอยู่บนภูเขาจอมแว่
ในเขตตำบลเมืองพาน อำเภอพาน ห่างจากตัวอำเภอไปทางด้านทิศเหนือประมาณ 3
กิโลเมตร เป็นพระธาตุที่ชาวอำเภอพาน และอำเภอใกล้เคียงนับถือว่าเป็น
พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ มีงานนมัสการพระธาตุทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8
ทางเหนือ หรือเดือน 9 ทางใต้
สถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธจอมเกศ
มหามังคลานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นพระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ สูง
60 ฟุต ตั้งเด่นอยู่บนยอดดอย
ประวัติความเป็นมาของพระธาตุดอยจอมแว่
พระธาตุดอยจอมแว่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพาน แห่งหนึ่งที่สำคัญ ตั้งอยู่ที่ วัดพระธาตุดอยจอมแว่ ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย ปี พ.ศ. 2119 ได้รับอนุญาตให้เป็นวัด ปี พ.ศ. 2380 เจ้าพญาหาญพ่อเมือง คนแรกของเมืองพาน ได้ร่วมกับคณะสงค์ และประชาชนสร้างอุโบสถหลังแรกขึ้น
ตามตำนานของสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ได้กล่าวไว้ว่า พระธาตุจอมแว่ได้สร้างขึ้นโดยพญางำเมือง เจ้าเมืองภูกามยาว (พะเยา) ในราว จ.ศ. ๖๕๖ (พ.ศ. ๑๘๓๗) โดยที่พระองค์ได้เสด็จขึ้นดอยซางคำ (ชื่อเดิมของดอยจอมแว่) เพื่อตรวจดูอาณาเขตบ้านเมืองของพระองค์ว่ามีไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ว่าอยู่ตรง ไหนบ้าง จากนั้นจึงเสด็จไปยังดอยอีกลูกหนึ่งซึ่งอยู่ตอนเหนือของลำน้ำแม่คาวด้วน และเสด็จเลียบต้นดอยด้วน (ดอยงาม) แล้วเสด็จไปยังเมืองภูกามยาว เมื่อพระองค์เสด็จถึงเมืองภูกามยาวใน เดือน ๔ ปีเดียวกัน จึงโปรดให้ขันฑเสนามาตย์ นำผู้ที่มีความรู้ในการก่อสร้างเจดีย์ พร้อมกับไพร่ฟ้าปลายแดน มาลงแรงช่วยกันสร้างพระธาตุจอมแว่ขึ้นที่ดอยซางคำ โดยได้ก่อทับรอยฟานเอาไว้ บรรจุพระเกศาธาตุ และแก้วแหวนเงินทองเอาไว้ สร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ๘ จึงได้มีพิธีการเฉลิมฉลองสมโภชพระเจดีย์เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน ในสมัยเจ้าเมืององค์ต่อมา บ้านเมืองอยู่ในสภาวะไม่สงบสุขประชาชนจึงได้อพยพไปอยู่ที่อื่น ทำให้พระธาตุจอมแว่ทรุดโทรมปรักหักพังจากภัยธรรมชาติ จนในปี จ.ศ. ๑๑๙๙ (พ.ศ. ๒๓๘o ) พระยาหาญเจ้าเมืองพานคนแรกจึงได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่จากซากเดิม จนในสมัยพญาไชยชนะสงคราม เจ้าเมืองพานคนที่ ๓ ได้ร่วมศรัทธา ๓ หมู่ ร่วมกันบูรณาพระธาตุขึ้นมาใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม แล้วบรรจุพระมหาชินธาตุเอาไว้มีประเพณีสรงน้ำพระธาตุในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ
พระธาตุดอยจอมแว่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพาน แห่งหนึ่งที่สำคัญ ตั้งอยู่ที่ วัดพระธาตุดอยจอมแว่ ต.เมืองพาน อ.พาน จ.เชียงราย ปี พ.ศ. 2119 ได้รับอนุญาตให้เป็นวัด ปี พ.ศ. 2380 เจ้าพญาหาญพ่อเมือง คนแรกของเมืองพาน ได้ร่วมกับคณะสงค์ และประชาชนสร้างอุโบสถหลังแรกขึ้น
ตามตำนานของสถานที่ท่องเที่ยวอำเภอพานแห่งนี้ได้กล่าวไว้ว่า พระธาตุจอมแว่ได้สร้างขึ้นโดยพญางำเมือง เจ้าเมืองภูกามยาว (พะเยา) ในราว จ.ศ. ๖๕๖ (พ.ศ. ๑๘๓๗) โดยที่พระองค์ได้เสด็จขึ้นดอยซางคำ (ชื่อเดิมของดอยจอมแว่) เพื่อตรวจดูอาณาเขตบ้านเมืองของพระองค์ว่ามีไพร่ฟ้าประชาราษฎร์ว่าอยู่ตรง ไหนบ้าง จากนั้นจึงเสด็จไปยังดอยอีกลูกหนึ่งซึ่งอยู่ตอนเหนือของลำน้ำแม่คาวด้วน และเสด็จเลียบต้นดอยด้วน (ดอยงาม) แล้วเสด็จไปยังเมืองภูกามยาว เมื่อพระองค์เสด็จถึงเมืองภูกามยาวใน เดือน ๔ ปีเดียวกัน จึงโปรดให้ขันฑเสนามาตย์ นำผู้ที่มีความรู้ในการก่อสร้างเจดีย์ พร้อมกับไพร่ฟ้าปลายแดน มาลงแรงช่วยกันสร้างพระธาตุจอมแว่ขึ้นที่ดอยซางคำ โดยได้ก่อทับรอยฟานเอาไว้ บรรจุพระเกศาธาตุ และแก้วแหวนเงินทองเอาไว้ สร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือน ๘ จึงได้มีพิธีการเฉลิมฉลองสมโภชพระเจดีย์เป็นเวลา ๓ วัน ๓ คืน ในสมัยเจ้าเมืององค์ต่อมา บ้านเมืองอยู่ในสภาวะไม่สงบสุขประชาชนจึงได้อพยพไปอยู่ที่อื่น ทำให้พระธาตุจอมแว่ทรุดโทรมปรักหักพังจากภัยธรรมชาติ จนในปี จ.ศ. ๑๑๙๙ (พ.ศ. ๒๓๘o ) พระยาหาญเจ้าเมืองพานคนแรกจึงได้ทำการบูรณปฏิสังขรณ์ขึ้นมาใหม่จากซากเดิม จนในสมัยพญาไชยชนะสงคราม เจ้าเมืองพานคนที่ ๓ ได้ร่วมศรัทธา ๓ หมู่ ร่วมกันบูรณาพระธาตุขึ้นมาใหม่ให้ใหญ่กว่าเดิม แล้วบรรจุพระมหาชินธาตุเอาไว้มีประเพณีสรงน้ำพระธาตุในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘ เหนือ
พระพุทธรูปปางประทานพร
พระพุทธจอมเกศมหามังคลานุสรณ์ ร.9
สร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ราชกาลที่ 9 แห่งราชวงค์จักรี เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในปีพุทธสักราช 2530 และทรงครองราชครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2539 สร้างไว้ ณ วัดพระธาตุจอมแว่ ตำบลเมืองพาน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
พระพุทธจอมเกศมหามังคลานุสรณ์ ร.9
สร้างเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ราชกาลที่ 9 แห่งราชวงค์จักรี เนื่องในวโรกาสอันเป็นมหามงคล ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระชนมพรรษาครบ 5 รอบ 60 พรรษา ในปีพุทธสักราช 2530 และทรงครองราชครบ 50 ปี ในวันที่ 9 มิถุนายน 2539 สร้างไว้ ณ วัดพระธาตุจอมแว่ ตำบลเมืองพาน อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
แหล่งข้อมูล
https://travelphancity.wordpress.com/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%A7%E0%B9%88/
วัดพระธาตุสามดวง
https://www.google.com/search?q=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0
วัดพระธาตุสามดวง มีชื่อเดิมว่า “พระเจดีย์สามองค์” หรือที่เรียกว่า
“พระธาตุสามดวง”
วัดแห่งนี้จัดได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในอำเภอพานเหมือนกัน
ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ตั้งอยู่บ้านป่าหุ่ง
หมู่ที่ 1 กับบ้านศาลาเหมืองหิน หมู่ที่ 11 ต.ป่าหุ่ง อ.พาน
จ.เชียงรายห่างจากที่ทำการ อ.พาน ไปทางทิศตะวันตก ระยะทาง 12 กม.
และสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ยังจัดเป็นโบราณที่สำคัญเหมือนกับวัดพระธาตุดอย
จอมแว่
ตามตำนานของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้เล่าว่าพระธาตุองค์นี้ สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.1839 ต่อมาได้มีการบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2476 โดยคณะศิษยานุศิษย์ของครูบาศึลธรรมกับครูบาไชยาเพื่อใช้เป็นที่ อยู่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ ในบริเวณพระธาตุสามดวงจะมองเห็นทิวทัศน์ของตัว อ.พาน ได้อย่างสวยงาม เดิมเป็นสถานที่ร้าง โดยมีซากเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐโบราณจำนวนสามองค์และพระพุทธรูปที่แกะสลักจาก หินศิลาแลงชำรุดทุรดโทรมปรักหักพังอยู่เป็นจำนวนมาก ตามหลักฐานคือเศษอิฐที่ปรากฎอยู่ สันนิษฐานว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี ขึ้นไป ภายหลังได้มีการลักลอบนำเอาซากพระพุทธรูปเหล่านั้นไปหมด คงเหลือแต่ซากพระเจดีย์ (พระธาตุ) ที่พังทลาย
ในบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะมองเห็นทิวทัศน์ของตัว อ.พาน ได้อย่างสวยงาม เดิมเป็นสถานที่ร้าง โดยมีซากเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐโบราณจำนวนสามองค์และพระพุทธรูปที่แกะสลักจาก หินศิลาแลงชำรุดทุรดโทรมปรักหักพังอยู่เป็นจำนวนมาก ตามหลักฐานคือเศษอิฐที่ปรากฎอยู่ สันนิษฐานว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี ขึ้นไป ภายหลังได้มีการลักลอบนำเอาซากพระพุทธรูปเหล่านั้นไปหมด คงเหลือแต่ซากพระเจดีย์ (พระธาตุ) ที่พังทลายอยู่
ตามตำนานของสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ได้เล่าว่าพระธาตุองค์นี้ สร้างขึ้นประมาณ พ.ศ.1839 ต่อมาได้มีการบูรณะเมื่อปี พ.ศ. 2476 โดยคณะศิษยานุศิษย์ของครูบาศึลธรรมกับครูบาไชยาเพื่อใช้เป็นที่ อยู่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ ในบริเวณพระธาตุสามดวงจะมองเห็นทิวทัศน์ของตัว อ.พาน ได้อย่างสวยงาม เดิมเป็นสถานที่ร้าง โดยมีซากเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐโบราณจำนวนสามองค์และพระพุทธรูปที่แกะสลักจาก หินศิลาแลงชำรุดทุรดโทรมปรักหักพังอยู่เป็นจำนวนมาก ตามหลักฐานคือเศษอิฐที่ปรากฎอยู่ สันนิษฐานว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี ขึ้นไป ภายหลังได้มีการลักลอบนำเอาซากพระพุทธรูปเหล่านั้นไปหมด คงเหลือแต่ซากพระเจดีย์ (พระธาตุ) ที่พังทลาย
ในบริเวณสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้จะมองเห็นทิวทัศน์ของตัว อ.พาน ได้อย่างสวยงาม เดิมเป็นสถานที่ร้าง โดยมีซากเจดีย์ที่ก่อด้วยอิฐโบราณจำนวนสามองค์และพระพุทธรูปที่แกะสลักจาก หินศิลาแลงชำรุดทุรดโทรมปรักหักพังอยู่เป็นจำนวนมาก ตามหลักฐานคือเศษอิฐที่ปรากฎอยู่ สันนิษฐานว่ามีอายุไม่ต่ำกว่า 700 ปี ขึ้นไป ภายหลังได้มีการลักลอบนำเอาซากพระพุทธรูปเหล่านั้นไปหมด คงเหลือแต่ซากพระเจดีย์ (พระธาตุ) ที่พังทลายอยู่
https://travelphancity.wordpress.com/วัดพระธาตุสามดวง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น